Sims Story: Nong 14 X CircuitBreaker
ไม่เคยลืม
01/10/2020
###คำเตือน###
รูปเยอะมาก
เวลาผ่านไปไวยิ่งกว่ากรรมตามทัน…วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 30 ปี ของฉัน ฉันจะกลับมาทวงคำสัญญานั้นอีกครั้ง ณ ที่ที่เรานัดพบกัน
“พี่ด้วง ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน “ ฉันยืนเหม่อมองท้องฟ้าสีชมพู รู้สึกโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก
รูปที่ฉันถ่ายคู่กับเขาสมัยสาวๆค่ะ น่ารักเหมาะสมกันมาก ใช่ไหมคะ?
ฉันยืนรอพี่ด้วง หน้ารูปปั้น ballerina ในสวนสาธารณะด้วยหัวใจสั่นระรัว 7.5 ริกเตอร์ 15 ปีที่ไม่เจอกัน เขาจะเป็นยังไงบ้างหนอ? แก่รึยัง? จะหัวล้านรึเปล่า? ตาชั้นเดียวเฉียงขึ้นเล็กน้อยอยู่ไหม?
หัวใจและสมองของฉันนึกย้อนไปสมัยเด็ก พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน แถวนั้นเป็นชนบท แทบไม่มีชาวซิมส์อาศัยอยู่
พวกเราสองคนเลยสนิทกัน หน้าตาเขาตรงเสปคฉันมากค่ะ หูกาง ตาชั้นเดียวเฉียงขึ้นนิดหน่อย ท่าทางอ้อนแอ้น บอบบางเนี่ย~
“นี่นายน่ะ มาเป็นแฟนเค้าก็ได้นะ?”
ฉันแอบหอมแก้มหนุ่มน้อยชุดลูกเสือ ชุดลูกเสือพี่ของพี่ด้วงนำแฟชั่นที่สุดในเมืองซิมส์เลยค่ะ ฉันชอบกางเกงลูกเสือรัดติ้ว สั้นเสมอขอบกางเกงในของเขามาก
“ไม่เอา เราสองคนแตกต่างกันเกินไป เธอเป็นหญิง ฉันเป็นชาย…”
พี่ด้วงทำหน้าตกใจมาก คำขอเป็นแฟนครั้งแรกในชีวิต (อายุ 6 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 3) โดนปฏิเสธแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แง …” ฉันแกล้งบีบน้ำตา
“ถ้าเป็นเพื่อนก็พอไหวนะ”
“ขอจุ๊บแก้ม ต้อนรับมิตรภาพของเราค่ะ~” ฉัน Skinship ผู้ชายอย่างเนียบแนียน
พี่ด้วงใจดีค่ะ ไม่เหมือนนังพวกเด็กผู้ชายคนอื่นที่ชอบแกล้งฉัน เวลาเล่นบทเจ้าหญิงดิสนีย์ เขาก็ไม่เคยแย่งบทเจ้าหญิงจากฉันพี่ด้วงมาเล่นตุ๊กตา เล่นพ่อแม่ลูก เป็นเพื่อนฉันเสมอ
หลังเลิกเรียนก็เดินกลับบ้านด้วยกัน ฉันชอบเวลานั้นมาก ท้องฟ้าสีส้มอมชมพู โรแมนติกมากเลยค่ะ
“…………”
ยัยเด็กผู้หญิงผมเปียที่แอบมองอยู่พูดเบาๆว่า “ร่าน”
ร้ายจริงๆ หล่อนอิจฉาฉันแน่เลยค่ะ แอบชอบพี่ด้วงเหมือนกันล่ะสิ
“ยุงเยอะมากค่ะ 14 ตียุงให้ค่ะ อยู่นิ่งๆนะคะ เดี๋ยวยุงมันหนี” (อ่านซ้ำสองที)
สวนสาธารณะที่ฉันนัดเจอพี่ด้วงวันนี้ เป็นสถานที่แห่งความรักของเราค่ะ พวกเราแวะมาเล่นที่นี่แทบทุกวัน ซอกมุมไหนก็เต็มไปด้วยความทรงจำ
“พี่จะรับบทเป็นนักสืบ ส่วนน้อง 14 เป็นคนตาย”
ฉันล้มตัวลงนอนกลางสนามหญ้า เขาเดินวนเวียนรอบตัวฉัน เอาหน้าลงมาใกล้ๆ หรือว่า หรือว่า…จูบแรก ว้ายๆๆๆ ที่นี่มันสวนสาธารณะ คนผ่านไปผ่านมาตั้งเยอะ พี่ด้วงไอ้คนทะลึ่ง!
“ได้กลิ่นเหมือนอัลมอนด์ ผู้ตายโดนพิษของ potassium cyanide!” พี่ด้วงโวยวาย
(เราสองคนเล่นเป็นนักสืบนักสืบเยาวชนตามหาฆาตกรค่ะ)
จนพวกเราสองคนโตเป็นวัยรุ่น ก็ยังอยู่ด้วยกันเสมอ (ไม่มีใครคบ ล้อเล่นค่ะ จริงๆแล้วเมืองที่พวกเราอยู่ไม่ค่อยมีวัยรุ่นค่ะ)
“ชอบไหม ถ้าชอบวันหลังพี่จะพามาเที่ยวที่นี่อีก”
“ชอบค่ะ…” (ที่หมายความว่า ฉันชอบพี่ค่ะ) มือที่กุมไว้ ทำให้รู้ว่าหัวใจพวกเราเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
ว่างๆพวกเราก็มานั่งคุยที่สวนสาธารณะที่เดิม นินทาบ้านข้างบ้านบ้าง นินทาอาจารย์ที่โรงเรียนบ้าง วิ่งไล่จับ เล่นซ่อนหากันบ้าง แล้วแต่อารมณ์ค่ะ แน่นอนว่าแอบ skinship ผู้ชายแบบแนบเนียนเช่นเคย ฮิฮิ
"อุ๊ย แข้งขาอ่อนแรงจะ ขอเกาะหน่อยนะคะ"
“ไม่อยากโตเลย 14 อยากเล่นกับพี่ด้วงไปตลอด”
“โตแล้วก็เล่นได้~”
"ยุงกัดอีกแล้วค่ะ สวนสาธารณะเมืองซิมส์ยุงเยอะจังนะคะ"
"อยู่นิ่งๆนะคะ 14 ตียุงให้ค่ะ"พี่ด้วงซื่อบื้อค่ะ เขาไม่รู้หรอกว่ากำลังโดนฉันคุกคามทางเพศ ฮ่าๆๆๆ
หลังๆพี่ด้วงตียุงด้วยปากให้ฉันตลอดเลยค่ะ แสดงว่ามุกหลอกผู้ชายแบบนี้ได้ผลใช่ไหมคะ?
พี่ด้วงกุมมือฉัน แต่ฉันไม่อยากจับแค่มือเขาอีกต่อไปแล้วหล่ะ ฉันชอบเขา แล้วก็มั่นใจว่าเขาก็ชอบฉัน ได้แต่รอคำสารภาพรักเท่านั้นแหล่ะค่ะ
แต่ว่าความสุขอยู่กับเราไม่นาน ตอนที่ฉันอายุ 15 ปี กำลังเรียนชั้นมัธยมต้น ทางบ้านต้องหนีหนี้นอกระบบไปที่เมืองอื่น ฉันจำต้องไปบอกลาพี่ด้วง
“ต้องไปแล้วหล่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะไปเจอกันอีก”
“เดี๋ยวสิ ไม่ไปไม่ได้เหรอ?” พี่ด้วงจับมือฉัน รั้งตัวไว้ไม่ให้ไป
“อยู่ที่นี่สิ อยู่กับพี่ พี่จะดูแลน้อง14 เอง”
“พี่ชอบน้อง14” พี่ด้วงทำหน้าเหมือนหมาหิวข้าว น่าสงสารมากเลยค่ะ
“มาบอกอะไรตอนนี้คะ…” ฉันร้องไห้เงียบๆ สวยๆแบบนางเอกหนัง พี่ด้วงเช็ดน้ำตาให้ฉัน
“ขอโทษนะ ที่ทำให้ร้องไห้ อย่าลืมเขียนจดหมายมาหาบ้าง”
พี่ด้วงเชยมาก สมัยนี้มีทั้ง line ทั้ง email ทั้ง facebook สารพัด ยังบอกให้ส่งจดหมาย…แต่ฉันก็ชอบที่เขาเป็นแบบนี้
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของพี่ด้วง ฉันไม่รอฟังจนจบประโยค รีบหันหลังแล้ววิ่งจากมาด้วยความเร็วที่สุดในชีวิต ฉันกลัวหัวใจตัวเอง กลัวว่าถ้าเขาบอกรัก คงไปจากเมืองนี้ไม่ได้
…ความคิดสะดุดลงแค่นี้ เพราะเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉัน
"14....."
“ใช่น้อง 14รึเปล่าครับ?”
“……”
หัวใจฉันเต้นแรง ตื่นเต้นจนแฉะไปหมดเลยค่ะ ฉันกลั้นใจ ค่อยๆหันไปตามเสียงเรียก สาธุ ขอให้เป็นพี่ด้วง
“ใช่จริงๆด้วย” พี่ด้วงยืนยิ้มให้ฉัน หน้าตาเขาแทบไม่เปลี่ยนไปจากตอนอายุ 16 ปีเลย แต่ดูสมาร์ท ภูมิฐานมากขึ้น น่ารักจริงเชียว
หัวใจฉันเต้นแรง จนแทบทะลุออกปากกรี้ดค่ะ พี่ด้วงของฉันยังหล่อ หัวไม่ล้าน ไม่อ้วนลงพุง เหมือนคุณลุงวัย 30+
“พี่ด้วง” ฉันโผเข้าไปหา อยากกอดเขาให้สมกับที่รอมานานแสนนาน แต่โดนพี่ด้วงเอาแขนกันไว้ ไม่ให้กอด คงอายสินะ
“ใจร้ายจัง ไม่ติดต่อมาตั้ง 15 ปี ” เขาตัดพ้อ…แต่พี่ด้วงก็ยิ้มให้ฉันเหมือนเคย ฉันชอบรอยยิ้มของเขา
“ขอโทษค่ะ หนูต้องหนีเจ้าหนี้ไปหลายเมืองมาก ย้ายที่อยู่บ่อยมาก” ตั้งแต่จากกันวันนั้น เราไม่เคยติดต่อกันอีกเลย
“พี่เข้าใจ”
“หนูไม่คิดว่าพี่จะยังจำสัญญาแต่งงานของเราได้” สีหน้าเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ก็กลับมายิ้มอบอุ่นให้ พร้อมกับถามฉัน
“เล่าให้ฟังหน่อยว่าไปทำอะไรมาบ้าง” ฉันนั่งคุยกับเขาบนม้านั่งแถวนั้น มุมนี้เมื่อก่อนเราสองคนเคยมานั่งจู๋จี๋กัน ฉันแอบนึกถึงอดีตนิดหน่อยตามประสาคนมีอายุ
“ตอนนี้พี่อยู่ที่เมือง del sol valley ไม่ค่อยได้มาแถวนี้หรอก…”
พี่ด้วงเล่าไปเรื่อยๆ เขาไปทำอะไรแถวนั้นนะ ย่านคนรวยเลยไม่ใช่เหรอ? หรือเขาไปทำงานเป็นพ่อบ้านให้พวกเศรษฐี มิน่าหล่ะแต่งตัวดีเชียว สูทที่ใส่ก็แบบสั่งตัดยี่ห้อแพง รองเท้าก็ดูมีราคา นาฬิกาก็แพง หรือยืมเพื่อนมา??? อร้าย
“ตอนนี้น้องสิบสี่อยู่ที่ไหน ทำอะไรจ๊ะ?”
ฉันจะทำอะไรหล่ะ ฉันเป็นมนุษย์ต่างดาว หนีหนี้นอกระบบ กลับดาวบ้านเกิดตั้งหลายปี กว่าจะกล้ากลับมาตอนนี้อาศัยบนยานอวกาศที่ลอยอยู่เหนือสวนสาธารณะนี่แหล่ะ แต่ฉันไม่บอกพี่ด้วงหรอก
“คิคิคิ”
ฉันแกล้งทำท่าหัวเราะคิกคัก กลบเกลื่อนเรื่องตอแหล
“…เมื่อห้าปีก่อน เคยไปตามหาพี่ที่บ้านหลังเดิม แต่ป้าข้างบ้านบอกว่าพี่ด้วงย้ายออกมานานแล้ว หนูเลยไม่รู้จะติดต่อพี่ได้ยังไงค่ะ 15 ปีที่ผ่านมา หนูคิดถึงพี่ทุกวัน” พี่ด้วงบีบมือฉันเบาๆ
“เรื่องของหนูน่าเบื่อจะตาย เล่าเรื่องของพี่ดีกว่าค่ะ”
“ตอนน้องสิบสี่ไปไม่นาน พี่ก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่เมืองหลวง…&$€#$฿7”€฿&”&”เสียงเด็กๆวิ่งเล่นไล่จับกันในสวนสาธารณะดังเหลือเกิน ทำฉันเสียสมาธิ แทบไม่ได้ยินที่พี่ด้วงพูด
”แน่จริงจับให้ได้เซ่”
“พี่เซเว่นวิ่งเร็วอ่า”
“ฮ่าๆๆๆๆ ยัยประไพ ขาสั้น ชักช้า พี่ไม่เล่นด้วยแล้ว” เด็กหูกาง ท่าทางซุกซนสองคน ดูท่าทางจะเป็นพี่น้องกัน วิ่งมาใกล้ๆพวกเรา ส่งเสียงเอะอะน่ารำคาญ
“ไปนั่งคุยที่อื่นไหมคะ? ร้านอาหาร หรือโรงแรมดี?” เด็กผู้หญิงเอาสีมาโรยพื้นเล่น จนเลอะเทอะไปหมด สีบางส่วนกระเด็นมาเปื้อนชุดฉันด้วย ไอ้เด็กบ้า!
“คุยที่นี่แหล่ะ” เสียงเด็กสองคนเมื่อกี๊ (ลิง1 ลิง2)โวยวายดังลั่น เด็กอะไรซนเป็นลิง พ่อแม่ไปไหนนะไม่มาดูแลลูก!? ไม่รับผิดชอบต่อสังคมเลย!
“ว้าย” เด็กผู้ชาย (ลิง1) วิ่งเกือบเหยียบเท้าฉัน ฉันเกลียดจริงเชียวพวกเด็กๆเนี่ย ทั้งดื้อ ทั้งไม่น่ารัก อยากเห็นพ่อแม่เด็กพวกนี้จริง!!
“นี่หนูจ๋า วิ่งระวังหน่อยสิ! รองเท้าฉันแพงนะ” ฉันมองซ้ายมองขวา หาพ่อแม่เด็ก กะว่าจะต่อว่าซะหน่อย
“แงๆๆ ป้าปากแดงน่ากลัว!”
“ขอโทษครับ ถ้าพังพี่ซื้อให้ใหม่” พี่ด้วงออกรับแทน โถๆๆ พ่อคนดี คนรักเด็ก เพราะแบบนี้ฉันถึงรักเขา เด็กลิง2 กระโดดโหนแขนพี่ด้วง แฟนฉันบอบบางอ้อนแอ้น แขนเล็กขนาดนี้เดี๋ยวหักขึ้นมาทำยังไง เจ้าเด็กซน!
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ด้วง ต้องโทษพ่อแม่เด็ก พวกนั้นก็ร้ายจริงเชียว หายหัวไปไหนไม่ทราบ ปล่อยลูกรบกวนคนอื่น” พี่ด้วงยิ้มอ่อนใส่ฉัน มีท่าทีกระอักกระอ่วน ฉันพูดอะไรผิดไป?
“ขอโทษอีกครั้งครับ เด็กสองคนนี้เป็นลูกๆของพี่เอง น้องเซเว่น น้องประไพ มาสวัสดีเพื่อนป๊ะป๋าสิ”
“ครับ/ค่ะ” เด็กลิง1 ลิง2 รีบมากอดพี่ด้วง
“สวัสดีค่ะ คุณป้าหน้าดุ/ สวัสดีครับ คุณป้าคิ้วขมวด”
(น้องเซเว่นนึกในใจ ป้าหน้าดุ ปากแดงคนนี้คือชู้ของป๊ะป๋า เขาจะไปฟ้องคุณแม่ ว่าป๊ะป๋าแอบนัดชู้มาจู๋จี๋กัน)
**ดูสายตาน้องเซเว่นสิคะ**
“เจ้าพวกนี้ เรียกคุณน้าก็พอ” พี่ด้วงดุลูกๆแบบไม่จริงจัง ไม่ว่าป้า หรือน้า ได้ยินแบบไหนก็เจ็บ ฉันอายุแค่ 30 ปี ไม่ชินเลยค่ะ!
ฉันเข่าแทบทรุดค่ะ บ้าจริง! ทำไมฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าพี่ด้วงจะแต่งงานมีลูกตั้ง2คน จะว่าไปเขาก็อายุตั้ง 31 ปี จะเคยแต่งงานก็ไม่แปลก
“ลูกๆน่ารักนะคะ” ฉันกัดฟันชม เจ้าเด็กลิง1 ลิง2 ในใจคิดว่า ไม่เห็นจะน่ารัก ท่าทางดื้อด้าน เลี้ยงยาก
“ขอบคุณครับ พี่ก็ว่าพวกเขาน่ารักมากเลย~”
“แล้วคุณแม่ของน้องๆ”
ฉันกัดฟันถาม คาดหวังว่าจะได้คำตอบว่า เลิกกันแล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้นทนความยากจนไม่ไหว ตอนนี้พี่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว บลาๆ ฉันจะได้ถือโอกาสแทรกเข้าไป
“เล่นกับสุนัขอยู่ที่บ้านน่ะ น้องหิรัญรัศมีไม่ชอบอากาศร้อน เธอกลัวผิวเสีย” ได้ยินแบบนั้น ฉันผิดหวังมาก
ลิง1 ลิง2 ปีนป่ายตัวพ่อของพวกเขา ด้วยความเมามัน มีพี่เลี้ยงร่างยักษ์สวมชุดเมด ผมทรงทวินเทลสีชมพู คอยดูแลไม่ห่าง
คุณพี่เลี้ยงยืนประกบอยู่ข้างหลัง มาตอนไหน? ทำไมฉันไม่รู้ตัว เธอลบจิตสังหารเก่งเหลือเกิน หุ่นล่ำบึกแบบนั้นบอกว่าเป็นบอดี้การ์ด หรือหน่วย S.W.A.T. จะน่าเชื่อถือกว่า
“คนไหนพี่ คนไหนน้องเอ่ย? หน้าเหมือนพี่ด้วงทั้งคู่เลยนะคะ”
ใจจริงฉันอยากบอกว่า หน้าตาน่าเกลียดเหมือนแม่แน่ๆ หึ! ตอนพี่ด้วงเป็นเด็กน่ารักมาก ยิ่งใส่ชุดลูกเสือรัดติ้วยิ่งน่ารัก
ฉันไม่อยากรู้หรอก ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องก็ดื้อทั้งคู่ ฉันตอแหล แกล้งสนใจลูกๆพี่ด้วงไปอย่างนั้นเอง ท่าทางเสแสร้งของฉันดูปลอมจนตัวเองยังไม่เชื่อ
“น้องเซเว่นเป็นพี่ชายค่ะ น้องประไพเป็นน้องสาวคนเล็ก สองคนนี้ลูกคนที่ 5และ6 ของคุณผู้ชายกับมาดามค่ะ…” เสียงเมดสาวตอบแทน
“ตอนนี้คุณผู้ชายเปลี่ยนชื่อแล้วนะคะ เปลี่ยนจาก คุณ“ดวงดี” เป็น คุณ“CircuitBreaker” ค่ะ”
ชื่อซิมส์ หรือบทสวดมนต์ ทำไมยาวแบบนั้น!?
“พี่มีลูกแค่ 6 คนเอง คิดว่าน้อยไปหน่อย พี่อยากมีลูกสักหนึ่งโหล ครอบครัวเราคงอบอุ่นดี“ มีลูกเยอะเกินไปแล้ว! นี่ซิมส์หรือโรงงานเย็บเสื้อโหลคะ?!
ไม่ยุติธรรม พี่ด้วงเขารักฉันมาก่อนนะ แม่ของเด็กๆ แม่ของลูกของพี่ด้วงควรเป็นฉัน ควรเป็นฉันที่ควงแขนเขาไปส่งลูกๆที่โรงเรียนนานาชาติ ฉันไม่ควรทิ้งเขาเลย ถ้าวันนั้นย้อนกลับมาได้…
“เห็นเจ้าพวกนี้ คิดถึงตอนพวกเราเด็กๆเนอะ” พี่ด้วงหันมายิ้มให้ฉัน หัวใจฉันเจ็บเหมือนโดนมีดแทง
“พี่ด้วงแต่งงานแล้ว…จะมาตามนัดทำไม?” หลอกให้ความหวังกันทำไม!
“พี่นึกได้ว่า ไม่ได้บอกน้อง14 ว่าจะมาเวลาไหน กลัวน้อง14 จะมารอ”
เออ!ฉันมาตั้งแต่ตีห้า ฉันมันโง่ โง่ โง่
เขายิ้มให้ฉัน พี่ด้วงใจดีเสมอฉันรักเขาตรงนี้แหล่ะ เสียดายเหลือเกิน ช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
ในใจฉันมีแต่คำว่า ถ้า ถ้า ถ้า ถ้า…เต็มไปหมด ในใจขมฝาด มีแต่ฉันที่จำเรื่องในอดีตได้รึไง มีแต่ฉันที่ไม่ move on
“ฉันอยากเป็นลม” จู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาเลยค่ะ
ฉันบอกลาพี่ด้วงกับครอบครัว แล้วเดินใจลอยมาจนถึงเมืองแปลกๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นสีแดงได้ยังไงไม่รู้ ในใจเหนื่อย ท้อแท้ เมื่อยล้าไปหมด
“รับแก้ปัญหาชีวิต?” ฉันยืนอ่านป้ายหน้าร้าน แล้วเดินเข้าไป ตอนนี้อยากได้ใครสักคนมาระบายความทุกข์ในใจที่สุด
“Hi มีอะไรให้ฉันช่วย?”
“มีไทม์แมชชีนไหมหล่ะ? ฉันอยากย้อนเวลา!”
“เพ้อเจ้อ นี่เกมส์ the sims นะยะ ไม่ใช่โดราเอมอน จะได้มีไทม์แมชชีน แต่ถ้าเธออยากฆ่าใครบอกฉันได้นะ ช่วงนี้ราคาพิเศษ” หมอดูพยายาม tie in
ฉันส่ายหัว ถอนหายใจดังเฮือก…“ก็บอกว่าอยากย้อนเวลา!”
หลังเธอกล่าววาจาต้อนรับแขก ก็เดินกระแทกเท้าไปบริกรรมคาถาใส่หม้อปรุงอาหารเดือดปุดๆ ที่มีผู้ชายเปลือยยืนอยู่ในนั้น!?
“นังพวกลูกค้าเรื่องมาก เสียเวล่ำเวลาปรุงผู้ชาย…อืม กลิ่นหอมน่ารับประทาน ปรุงด้วยโชยุสักนิด”
“หอมมาก~น้องจีจ๋า”
“ขาดผงหมาล่า” //เอานิ้วจิ้มไปที่น้ำซุปผู้ชาย
“ทั้งหอมทั้งอร่อย สมเป็นน้องจีของคุณพี่ คนคุณภาพ กินน้องจีกับอะไรก็อร่อย~”
“น้องจีจ๋า ไฟแรงไปรึเปล่า? คุณพี่ลดไฟให้นะจ๊ะ~”
“คุณพี่ยกเวลาคืนนี้ให้น้องจีทั้งคืนเลยค่ะ~ คุณพี่แทบรอไม่ไหวแล้วค่ะ คิคิ” หมอดูพูดจาลามกใส่ชายหนุ่มในหม้อ ยังไม่ตายใช่ไหมนั่น? ไฟแรงมาก ฉันอยู่ไกลๆยังร้อนจนแสบหน้าเลยค่ะ
“หล่อนยังไม่ไสหัวไปอีก! “ ผู้หญิงผมม่วงหันมาตวาดใส่ฉันอีกครั้ง
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันแค่กำลังเศร้าที่คนที่รักหนีไปแต่งงาน ฉันอยากกลับไปเป็นเด็กเหลือเกิน อยากย้อนวัยไปสมัยที่เรารักกัน” อยากกลับไปตอนอายุ 15 ปี ถ้าย้อนเวลาได้ ฉันจะไม่ทิ้งพี่ด้วงไปไหน
“แล้วไง?”
“ฉันอยากกลับไปเป็นเด็กสาวอีกครั้ง แล้วก็อยากได้ยาเสน่ห์ให้ผู้ชายหลงรักด้วยค่ะ จะว่าเลวก็ได้ แต่ฉันอยากได้เขากลับมา อยากแย่งเขามาจากเมีย”
“คนเลวแบบเธอจ่ายได้แค่ไหน? มีงบเท่าไหร่?”
“บอกเลยว่าเรื่องความรักฉันทุ่มสุดตัว ฉันจะขายบ้าน ขายรถ ขายยานอวกาศ มาจ่ายคุณค่ะ”
“ถ้าเรื่องนั้น ชั้นช่วยเธอได้นะ มีเส้นผมหรือเล็บของผู้ชายคนนั้นไหม ฉันทำตุ๊กตาวูดูให้ได้ แต่ปรุงยาย้อนวัย ยากมาก อีก 3 วันเธอค่อยมาใหม่”
“รับแต่เงินสดนะคะ cash is king” ฉันตกลง ก่อนจ่ายเงินก้อนใหญ่เป็นค่ายา กับเครื่องรางความรักให้ผู้หญิงผมสีม่วง ก่อนนัดหมายเวลามารับของ
3 วันต่อมา…
“เชิญดื่ม”
“ไม่มีฉลากยาเหรอ?” สีสันก็น่ากลัว กลิ่นแปลกๆอีกต่างหาก ตอนแรกฉันยกขึ้นจ่อปากแล้วหล่ะ แต่เพื่อความแน่ใจขอถามสักหน่อย
“ไม่มี”
“ FDA รับรองรึยัง? ได้ทำการทดลองในห้องแลบ ,สัตว์ ,กลุ่มตัวอย่างรึเปล่า?”
“ยาปรุงเองกับมือ เชื่อฝีมือชั้นเถอะน่า”
“ต้องกินกี่ CC ก่อนหรือหลังอาหาร นานไหมกว่าจะออกฤทธิ์ มี side effect อะไรบ้าง?”
“กินหมดขวดนั่นแหล่ะ หล่อนนี่จุกจิกจุ้นจ้าน ถามมากจริง! จะกินไม่กิน!? ไม่กินก็ทิ้งไป แต่เงินไม่คืนนะยะ!” หมอดูที่พ่วงตำแหน่งเภสัชกรเถื่อนเริ่มหงุดหงิด
“ไม่ตายแน่นะ?” ฉันยังไม่ไว้ใจยาเถื่อนในมือ
“วางใจได้ ถ้าเธอกินยาแล้วตาย อมอึสุนัขมาพ่นใส่หน้าฉันได้เลยย่ะ”ผู้หญิงผมสีม่วงรับประกันขึงขัง
“เดี๋ยวย่ะ หล่อนต้องทำท่าแบบนี้ก่อนกิน พร้อมตะโกนคาถาด้วย” // ทำท่าแปลงร่างประกอบ
“ตะโกนดังๆว่า มนตร์แห่งจันทรา จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้ ทำตามฉัน เร็วเข้า!”
“ใครจะบ้าไปทำ”
ฉันจับขวดยามาเทเข้าปาก ไม่สนใจคาถากำกับยา กับท่าแปลงร่างพิลึกนั่น ยัยหมอดูหลอกฉันทำท่าบ้าๆบอๆแน่นอน
Wink Wink Wink~ (เสียง effect แปลงร่าง)
“อ่าห์ รู้สึกดีมาก ไม่ปวดข้อ ปวดเมื่อยร่างกายอีกต่อไป ฉันเป็นสาวแล้วสินะ”
“เอ่อ…”
หมอดูทำหน้าตกใจ ฉันตัวเตี้ยลงจนต้องเงยหน้ามองเธอ นี่ตัวฉันหดเล็กลงหรือ? ฉันเดินไปดูเงาตัวเองที่กระจกหน้าต่าง เด็กน้อยหน้าตาน่ารักแสนคุ้นตาในกระจกมองกลับมาด้วยหน้าเหวอ…ฉันตอนเด็กนี่!!
S H O C K
ฉ…ฉันกลับไปเป็นเด็ก 6 ขวบ ! น้ำยาเฮงซวย! นังหมอดูต้มตุ๋น นังงูพิษ นังคนหลอกลวง ฉันกระทืบเท้า ชี้หน้าด่ายัยหมอดูก่อนจะกรีดร้องโหยหวน
“…………เฮงซวย!”
“เป็นเด็กไม่หยาบคายสิยะ หัดมีมารยาทหน่อย มิน่า!ผู้ชายเขาไม่รัก เฮอะ!”
“ทำให้ฉันกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้”
“ชั้นไม่รับผิดชอบนะยะ หล่อนไม่ทำท่าแปลงร่างกับท่องคาถากำกับยาเอง…ไม่ทำตามคำแนะนำจากเภสัชกรผู้ปรุงยา ยาเลยไม่ได้ผลน่ะเซ่!”
“แก!! หลอกลวง ชั้นจะฆ่าแก!!”
“แวมไพร์ประสิทธิโชค ช่วยด้วยค่ะ แสนเสน่ห์โดนคนใจร้าย โหดเหี้ยมมารังแกค่ะ เด็กหยาบคายคนนี้ขู่ฆ่าแสนเสน่ห์ แสนเสน่ห์กลั๊ว~กลัว”
//เสียงค้างคาวบินมา ก่อนจะกลายร่างจากควันดำมาเป็นชายหนุ่มหูกาง รูปงาม ท่าทางอ้อนแอ้นบอบบาง น่าเสียดายที่ขอบตาคล้ำเหมือนคนอดนอนไปหน่อย
“สวัสดีมาดาม ขอผมดูดเลือดคุณหน่อยได้ไหม?” หลังจากนั้นฉันก็สติดับวูบไปค่ะ…
Prima
01/10/2020
(ระหว่างที่พิมพ์ ก็นั่งฟังเสียงพัดลมของmacbook pro 2019 ที่ดังกว่าเครื่องดูดฝุ่น)